Artwork

Контент предоставлен Soul Food Ministries. Весь контент подкастов, включая эпизоды, графику и описания подкастов, загружается и предоставляется непосредственно компанией Soul Food Ministries или ее партнером по платформе подкастов. Если вы считаете, что кто-то использует вашу работу, защищенную авторским правом, без вашего разрешения, вы можете выполнить процедуру, описанную здесь https://ru.player.fm/legal.
Player FM - приложение для подкастов
Работайте офлайн с приложением Player FM !

สดแต่เช้า Ep.291 จะรับมือกับการท้าทายอย่างไรดี?

6:01
 
Поделиться
 

Manage episode 461310056 series 3264869
Контент предоставлен Soul Food Ministries. Весь контент подкастов, включая эпизоды, графику и описания подкастов, загружается и предоставляется непосредственно компанией Soul Food Ministries или ее партнером по платформе подкастов. Если вы считаете, что кто-то использует вашу работу, защищенную авторским правом, без вашего разрешения, вы можете выполнить процедуру, описанную здесь https://ru.player.fm/legal.

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (291)

จะรับมือกับการท้าทายอย่างไรดี?

“ข้าพเจ้าเผชิญได้ทุกอย่าง

โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า”

~ฟีลิปปี 4:13 THSV11

“I can do everything through Christ

who strengthens me.”

~Philippians 4:13 GW

คำว่า “การท้าทาย” ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า

“A challenge” ที่มีความหมายว่า

“บางสิ่งที่ใหม่และยาก ซึ่งจำเป็นต้องมีความพยายามและความมุ่งมั่นอย่างมากในการรับมือ”

(is something new and difficult which requires great effort and determination.)

ชีวิตและการรับใช้ของเรามักมีบางเรื่องหรือมีบางสิ่งท้าทายขวางอยู่เบื้องหน้าตลอดเวลา

~บางเรื่องก็เป็นเรื่องยากจริง

~บางเรื่องก็เป็นเรื่องหนักมาก

~บางเรื่องก็เป็นเรื่องเจ็บปวดสาหัส

~บางเรื่องก็เป็นเรื่องใหม่ไม่คุ้นเคยเลย

~บางเรื่องก็เป็นเรื่องไม่คาดฝัน ฯลฯ

ทำให้ไม่ง่ายสำหรับเราในการรับมือกับความท้าทายเหล่านั้น!

ยิ่งบางเรื่องเป็นเรื่องที่เปราะบางทางใจ หรืออยู่ในกระแสสังคม ที่มีความกดดันสูงด้วย

ก็ยิ่งทำให้เราลำบากยากเย็นเข็ญใจในการจัดการมากยิ่งขึ้นไปอีก

แต่ทุกอย่างจะไม่เป็นปัญหาเกินที่เราจะรับมือ หากว่า

เราเชื่อ วางใจ และพึ่งพา

1).พระกำลังของพระคริสต์ และ

2).พระสติปัญญาของพระเจ้า

เราจึงต้อง เรียนรู้จัก

1,ยอมรับ(accept)ในสิ่งที่เราปฏิเสธหรือเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้

2.ยอมปรับ(adjust)หรือปรับปรุงในบางสิ่งที่เราสามารถพอปรับปรุงแก้ไขได้

3.ยอมเปลี่ยน(adapt)หรือหาวิธีใหม่ที่เราใช้รับมือกับวิกฤติหรือบรรลุเป้าหมายได้

4.ยอมปฏิเสธ(avoid)หรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เราทำในสิ่งที่ขัดกับจุดยืนตามพระวจนะของพระเจ้า

เราต้องพร้อมเผชิญกับทุกสิ่งและทุกสถานการณ์ด้วยหลักการดังต่อไปนี้

1.ใช้ความจริงคู่กับความรัก-

“จริงก็จงว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ คำพูดที่เกินกว่านี้มาจากความชั่ว”

~มัทธิว 5:37 THSV11

“แต่ให้เรายึดถือความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์

ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์”

~เอเฟซัส 4:15 THSV11

“ความรักไม่ทำอันตรายต่อเพื่อนบ้านเลย เพราะฉะนั้นความรักจึงเป็นสิ่งที่ทำให้

ธรรมบัญญัติสำเร็จอย่างครบถ้วน”

~โรม 13:10 THSV11

พี่น้องที่รัก อย่าให้เรา

1.ยึดความจริงอย่างเดียว หรือ

2.ความรักอย่างเดียว แต่ว่าทั้งสอง ต้องไปด้วยกันเสมอ ไม่มีการแยกจากกันโดยเด็ดขาด

1).อย่าอ้างความจริงเพื่อทำอันตรายผู้ใด

2).อย่าอ้างความรักเพื่อทำลายความจริง

3).อย่าบูชาความจริงเป็นพระเจ้า

4).อย่ายึดความรักเป็นรูปเคารพ

5).อย่าปล่อยให้ความเท็จและความเกลียดชังครอบงำจิตใจของเรา

2.ใช้ความเมตตานำหน้าการพิพากษาหรือกฎกติกา~

“เพราะว่าการพิพากษาย่อมไม่เมตตาต่อคนที่ไม่แสดงความเมตตา

ความเมตตาย่อมมีชัยเหนือการพิพากษา”

~ยากอบ 2:13 THSV11

“ท่านจงไปเรียนความหมายของคัมภีร์ข้อนี้ ที่ว่า ‘เราประสงค์ความเมตตา

ไม่ประสงค์เครื่องสัตวบูชา’ ด้วยว่าเราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม

แต่มาเรียกคนบาป””

~มัทธิว 9:13 THSV11

“พวกท่านจงมีใจเมตตากรุณาเหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา”

~ลูกา 6:36 THSV11

พี่น้องที่รัก

1).อย่าให้เราเอาความคิดเห็นของตัวเอง เท่านั้น

2).อย่าให้เราอ้างกฎกติกา หรือบทบัญญัติ หรือ ความจริงในพระคัมภีร์

บางข้อบางตอน

3).อย่าให้เราเอากระแสของสังคมหรือของโลกที่กดดันเราอย่างมาก

ไปเล่นงานพิพากษาผู้ใดอย่างไร้เมตตา

เราต้องเตือนตัวเองไว้เสมอว่าเราไม่มีสิทธิ์พิพากษา

ผู้ใดหรือแม้แต่ต่อตัวเอง

เราทำได้อย่างมากก็แค่ นำคำเตือนเรื่องการพิพากษา หรือคำพิพากษาที่ชัดเจนของพระเจ้าไป

มอบให้แก่เขาเท่านั้น ด้วยท่าทีถ่อมใจ เมตตากรุณา และให้เกียรติแก่เขา

พี่น้องที่รัก

ขอให้เราเผชิญกับทุกการท้าทายในชีวิตและในการรับใช้

ด้วยการพึ่ง

1.พระสติปัญญาที่มาจากพระเจ้าพระบิดา

2.พระกำลังที่มาจากองค์พระเยซูคริสต์พระบุตร

3.ฤทธิ์เดชที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

ซึ่งสอดคล้องกับหลักคำสอนที่เปิดเผยไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์

เพื่อที่เราจะบินสูงขึ้น และ เป็นผู้มีชัยในบั้นปลายอย่างแท้จริง!

ขอให้เรามีท่าทีอย่างท่านนายพล George S. Patton (1885~1945) ผู้โด่งดังในสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งกล่าวว่า

“ จงยอมรับการท้าทาย เพื่อว่าคุณจะได้รู้สึกเบิกบานใจในชัยชนะ!”

(Accept the challenges so that you can feel the exhilaration of victory.)

…เห็นด้วยไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~~~

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

16มกราคม 2025

#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า

#หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify

  continue reading

918 эпизодов

Artwork
iconПоделиться
 
Manage episode 461310056 series 3264869
Контент предоставлен Soul Food Ministries. Весь контент подкастов, включая эпизоды, графику и описания подкастов, загружается и предоставляется непосредственно компанией Soul Food Ministries или ее партнером по платформе подкастов. Если вы считаете, что кто-то использует вашу работу, защищенную авторским правом, без вашего разрешения, вы можете выполнить процедуру, описанную здесь https://ru.player.fm/legal.

คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (291)

จะรับมือกับการท้าทายอย่างไรดี?

“ข้าพเจ้าเผชิญได้ทุกอย่าง

โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า”

~ฟีลิปปี 4:13 THSV11

“I can do everything through Christ

who strengthens me.”

~Philippians 4:13 GW

คำว่า “การท้าทาย” ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า

“A challenge” ที่มีความหมายว่า

“บางสิ่งที่ใหม่และยาก ซึ่งจำเป็นต้องมีความพยายามและความมุ่งมั่นอย่างมากในการรับมือ”

(is something new and difficult which requires great effort and determination.)

ชีวิตและการรับใช้ของเรามักมีบางเรื่องหรือมีบางสิ่งท้าทายขวางอยู่เบื้องหน้าตลอดเวลา

~บางเรื่องก็เป็นเรื่องยากจริง

~บางเรื่องก็เป็นเรื่องหนักมาก

~บางเรื่องก็เป็นเรื่องเจ็บปวดสาหัส

~บางเรื่องก็เป็นเรื่องใหม่ไม่คุ้นเคยเลย

~บางเรื่องก็เป็นเรื่องไม่คาดฝัน ฯลฯ

ทำให้ไม่ง่ายสำหรับเราในการรับมือกับความท้าทายเหล่านั้น!

ยิ่งบางเรื่องเป็นเรื่องที่เปราะบางทางใจ หรืออยู่ในกระแสสังคม ที่มีความกดดันสูงด้วย

ก็ยิ่งทำให้เราลำบากยากเย็นเข็ญใจในการจัดการมากยิ่งขึ้นไปอีก

แต่ทุกอย่างจะไม่เป็นปัญหาเกินที่เราจะรับมือ หากว่า

เราเชื่อ วางใจ และพึ่งพา

1).พระกำลังของพระคริสต์ และ

2).พระสติปัญญาของพระเจ้า

เราจึงต้อง เรียนรู้จัก

1,ยอมรับ(accept)ในสิ่งที่เราปฏิเสธหรือเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้

2.ยอมปรับ(adjust)หรือปรับปรุงในบางสิ่งที่เราสามารถพอปรับปรุงแก้ไขได้

3.ยอมเปลี่ยน(adapt)หรือหาวิธีใหม่ที่เราใช้รับมือกับวิกฤติหรือบรรลุเป้าหมายได้

4.ยอมปฏิเสธ(avoid)หรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เราทำในสิ่งที่ขัดกับจุดยืนตามพระวจนะของพระเจ้า

เราต้องพร้อมเผชิญกับทุกสิ่งและทุกสถานการณ์ด้วยหลักการดังต่อไปนี้

1.ใช้ความจริงคู่กับความรัก-

“จริงก็จงว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ คำพูดที่เกินกว่านี้มาจากความชั่ว”

~มัทธิว 5:37 THSV11

“แต่ให้เรายึดถือความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์

ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์”

~เอเฟซัส 4:15 THSV11

“ความรักไม่ทำอันตรายต่อเพื่อนบ้านเลย เพราะฉะนั้นความรักจึงเป็นสิ่งที่ทำให้

ธรรมบัญญัติสำเร็จอย่างครบถ้วน”

~โรม 13:10 THSV11

พี่น้องที่รัก อย่าให้เรา

1.ยึดความจริงอย่างเดียว หรือ

2.ความรักอย่างเดียว แต่ว่าทั้งสอง ต้องไปด้วยกันเสมอ ไม่มีการแยกจากกันโดยเด็ดขาด

1).อย่าอ้างความจริงเพื่อทำอันตรายผู้ใด

2).อย่าอ้างความรักเพื่อทำลายความจริง

3).อย่าบูชาความจริงเป็นพระเจ้า

4).อย่ายึดความรักเป็นรูปเคารพ

5).อย่าปล่อยให้ความเท็จและความเกลียดชังครอบงำจิตใจของเรา

2.ใช้ความเมตตานำหน้าการพิพากษาหรือกฎกติกา~

“เพราะว่าการพิพากษาย่อมไม่เมตตาต่อคนที่ไม่แสดงความเมตตา

ความเมตตาย่อมมีชัยเหนือการพิพากษา”

~ยากอบ 2:13 THSV11

“ท่านจงไปเรียนความหมายของคัมภีร์ข้อนี้ ที่ว่า ‘เราประสงค์ความเมตตา

ไม่ประสงค์เครื่องสัตวบูชา’ ด้วยว่าเราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม

แต่มาเรียกคนบาป””

~มัทธิว 9:13 THSV11

“พวกท่านจงมีใจเมตตากรุณาเหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา”

~ลูกา 6:36 THSV11

พี่น้องที่รัก

1).อย่าให้เราเอาความคิดเห็นของตัวเอง เท่านั้น

2).อย่าให้เราอ้างกฎกติกา หรือบทบัญญัติ หรือ ความจริงในพระคัมภีร์

บางข้อบางตอน

3).อย่าให้เราเอากระแสของสังคมหรือของโลกที่กดดันเราอย่างมาก

ไปเล่นงานพิพากษาผู้ใดอย่างไร้เมตตา

เราต้องเตือนตัวเองไว้เสมอว่าเราไม่มีสิทธิ์พิพากษา

ผู้ใดหรือแม้แต่ต่อตัวเอง

เราทำได้อย่างมากก็แค่ นำคำเตือนเรื่องการพิพากษา หรือคำพิพากษาที่ชัดเจนของพระเจ้าไป

มอบให้แก่เขาเท่านั้น ด้วยท่าทีถ่อมใจ เมตตากรุณา และให้เกียรติแก่เขา

พี่น้องที่รัก

ขอให้เราเผชิญกับทุกการท้าทายในชีวิตและในการรับใช้

ด้วยการพึ่ง

1.พระสติปัญญาที่มาจากพระเจ้าพระบิดา

2.พระกำลังที่มาจากองค์พระเยซูคริสต์พระบุตร

3.ฤทธิ์เดชที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

ซึ่งสอดคล้องกับหลักคำสอนที่เปิดเผยไว้ในพระคริสตธรรมคัมภีร์

เพื่อที่เราจะบินสูงขึ้น และ เป็นผู้มีชัยในบั้นปลายอย่างแท้จริง!

ขอให้เรามีท่าทีอย่างท่านนายพล George S. Patton (1885~1945) ผู้โด่งดังในสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งกล่าวว่า

“ จงยอมรับการท้าทาย เพื่อว่าคุณจะได้รู้สึกเบิกบานใจในชัยชนะ!”

(Accept the challenges so that you can feel the exhilaration of victory.)

…เห็นด้วยไหมครับ?

~~~~~~~~~~~~~~~

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

16มกราคม 2025

#YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า

#หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify

  continue reading

918 эпизодов

Все серии

×
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (306) ศิลปะแห่งการให้เกียรติ “จงรักกันฉันพี่น้อง จงขวนขวายในการให้เกียรติกันและกัน” ~โรม 12:10 THSV11 “Be devoted to one another in love. Honor one another above yourselves.” ~Romans 12:10 NIV Realism Journey ได้แบ่งปันเรื่องศิลปะแห่งการให้เกียรติไว้ได้ดี และสอดคล้องกับหลักคำสอนของพระวจนะของพระเจ้า ชึ่งเราทุกคนสมควรเรียนรู้และกระทำตาม ดังนี้ 1.เราควรรับฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจ –จงให้ความสำคัญกับความคิดและความรู้สึกของผู้อื่นโดยการฟังอย่างเปิดใจและใส่ใจ 2.เราควรใช้คำพูดที่สุภาพสื่อสารกับผู้อื่น –จงเลือกใช้ถ้อยคำที่อ่อนโยนและเหมาะสมในทุกสถานการณ์ 3.เราไม่ควรตัดสินผู้อื่น(โดยไม่รู้ข้อเท็จจริง) – จงหลีกเลี่ยงการวิจารณ์หรือแสดงความเห็นเชิงลบโดยไม่เข้าใจพื้นฐานหรือภูมิหลังของผู้อื่น 4.เราควรเคารพความแตกต่างของผู้อื่น –จงยอมรับและเปิดใจต่อความหลากหลายของความคิดเห็น วัฒนธรรม และวิถีชีวิต 5.เราควรแสดงความขอบคุณผู้อื่นเสมอ – จงซาบซึ้งและขอบคุณผู้อื่นอย่างจริงใจเมื่อได้รับความช่วยเหลือหรือสิ่งดี ๆ 6.เราควรรู้จักเคารพเวลาของผู้อื่น –จงตรงต่อเวลาและไม่ทำให้ผู้อื่นต้องรอโดยไม่จำเป็น 7.เราควรใส่ใจในรายละเอียดเกี่ยวกับผู้อื่น –จงสังเกตและจดจำสิ่งเล็ก ๆ ที่สำคัญสำหรับผู้อื่น เช่น วันสำคัญหรือความชอบและไม่ชอบ 8.เราควรให้โอกาสผู้อื่นพูด – จงอย่าขัดจังหวะหรือพูดแทรกในขณะที่ผู้อื่นกำลังพูด 9.เราควรมองผู้อื่นในแง่ดีไว้ก่อน – จงเชื่อว่าผู้อื่นนั้นมีเจตนาดีและให้โอกาสพวกเขาแสดงตัวตนหรือพิสูจน์ตน 10.เราควรเคารพนับถือความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น –จงอย่าก้าวก่ายหรือถามคำถามที่อาจสร้างความอึดอัดให้แก่ผู้อื่น 11.เราควรรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับผู้อื่น – จงซื่อสัตย์และทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ต่อคนอื่น 12.เราควรแบ่งปันความสำเร็จแก่ผู้อื่นที่สมควรได้รับ –จงให้เครดิตแก่ผู้อื่นเมื่อพวกเขามีส่วนช่วยเราในความสำเร็จ 13.เราไม่ควรดูถูกหรือเย้ยหยันผู้อื่น – จงหลีกเลี่ยงการแสดงพฤติกรรมที่บั่นทอนศักดิ์ศรีของผู้อื่น 14.เราควรให้กำลังใจผู้อื่นไว้เสมอ –จงสนับสนุนและส่งเสริมผู้อื่นให้มีความมั่นใจในตนเอง 15.เราควรยอมรับข้อผิดพลาดของตนที่ทำต่อผู้อื่น – จงพร้อมขอโทษเมื่อทำผิดและเรียนรู้จากสิ่งนั้น 16.เราควรเป็นผู้ฟังที่เปิดใจต่อผู้อื่น –จงฟังโดยไม่ด่วนสรุปหรือแสดงความเห็นที่อาจสร้างความขัดแย้งกับผู้อื่น 17.เราควรช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน –จงทำสิ่งดี ๆ ให้ผู้อื่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ 18.เราควรปฏิบัติต่อผู้อื่นทุกคนอย่างเท่าเทียม –จงอย่าแบ่งแยกหรือเลือกปฏิบัติต่อผู้คนทั้งหลาย 19.เราควรส่งเสริมความเป็นตัวของตัวเราเองและของตัวคนอื่น(อย่างเหมาะสม) – จงเคารพในตัวตนของเราและการตัดสินใจของผู้อื่น 20.เราควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับเราและคนอื่น – จงทำให้ผู้อื่นรู้สึกสบายใจที่เขาจะเป็นตัวของตัวเอง(เมื่ออยู่กับเรา) พี่น้องพี่น้องที่รัก การให้เกียรติแก่ผู้อื่น 1.เป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีและที่อบอุ่นต่อกัน 2.เป็นการช่วยสร้างสังคม 1).ให้เปี่ยมด้วยความเคารพนับถือ และ 2).ให้เต็มด้วยความเข้าใจกันและกันมากขึ้น 3.เป็นมรรคาแห่งความยำเกรงของพระเจ้าที่ประกอบด้วย 1).สติปัญญา 2).ความถ่อมใจ และ 3.เกียรติ ที่จะมาสู่ทุกคน “ความยำเกรงพระยาห์เวห์จะสอนให้เกิดปัญญา และความถ่อมตัวมาก่อนเกียรติ” ~สุภาษิต 15:33 THSV11 (Wisdom’s instruction is to fear the Lord, and humility comes before honor.) ~Proverbs 15:33 NIV แล้ว วันนี้ คุณมีและแสดงศิลปะแห่งการให้เกียรติผู้อื่นเช่นนี้ต่อผู้อื่นเป็นนิสัย …แล้วหรือยัง? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 31มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี#SoulFoodPodcastsSpotify #ค่ายศูนย์เพื่อไทย ไต้หวัน 29~31มค.2025,ผูหลี่ หนานโถว,“Who am I?”…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (305) คำอธิษฐานในตอนเช้า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ยามเช้าพระองค์ทรงสดับเสียงข้าพระองค์ ยามเช้าข้าพระองค์เตรียมคำอธิษฐานแด่พระองค์ และเฝ้าคอยอยู่” ~สดุดี 5:3 THSV11 “In the morning, Lord, you hear my voice; in the morning I lay my requests before you and wait expectantly.” ~Psalms 5:3 NIV ในทุกเช้า และ ในทุกที่ เราสามารถอธิษฐานสนทนากับพระเจ้าได้ในทันทีที่ตื่นมา เราสามารถทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์ได้ในเรื่องที่จำเป็น แต่จะดีอย่างยิ่ง ถ้าเราจะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยถ้อยคำแห่งการขอบพระคุณพระเจ้า สำหรับทุกๆสิ่งที่เราได้รับมาจากพระองค์! เราสามารถอธิษฐานต่อพระองค์ เช่นนี้ “ข้าแต่พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ ขอบคุณพระองค์สำหรับของขวัญแห่งวันใหม่ ในขณะที่ดวงตะวันฉายแสง ขอทรงโปรดเติมใจของพวกข้าพระองค์ด้วยแสงสว่างของพระองค์ ขอทรงนำย่างเท้าของข้าทั้งหลายด้วยพระสติปัญญาของพระองค์ ขอทรงช่วยพวกข้าพระองค์ทั้งหลาย ให้สามารถเผชิญกับทุกการท้าทายได้ด้วยพระคุณ และ ให้สามารถโอบรับโอกาสต่างๆด้วยความเปรมปรีดิ์” (Heavenly Father, Thank you for the gift of this new day. As the sun rises, fill our hearts with your light and guide our steps with your wisdom. Help us face challenges with Grace and embrace opportunities with joy.) “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้ถ้อยคำและการกระทำของข้าพระองค์ทั้งหลาย สะท้อนความรักของพระองค์ออกมา ขอทรงนำเอาการปลอบประโลมและการหนุนชูใจมาสู่คนอื่นๆ ขอทรงประทานสันติสุขท่ามกลางความผันผวน ขอทรงประทานกำลังเรี่ยวแรงที่จะดำเนินต่อไปในความเชื่อ ด้วยทราบดีว่าพระองค์สถิตอยู่กับข้าพระองค์ทั้งหลายเสมอมาและเสมอไป ขอทรงอวยพระพรวันนี้ให้บรรลุวัตถุประสงค์ และเปี่ยมล้นด้วยความชื่นชมยินดี และ ขอทรงให้การสถิตอยู่ด้วยของพระองค์สร้างแรงบันดาลใจให้กับสิ่งทั้งปวงที่พวกข้าพระองค์ ทั้งหลายกระทำ พวกข้าพระองค์ทั้งหลายอธิษฐาน ในพระนามพระเยซูเจ้า อาเมน! (Lord may our works and actions reflect your love, bringing comfort and encouragement to others. Grant us peace amidst uncertainty and strength to walk in faith, Knowing you are always with us Bless this day with purpose and joy, And may your presence inspires us in all we do. In Jesus’ name, we pray) Amen. พี่น้องที่รัก คุณเริ่มต้นวันใหม่ของคุณอย่างไร? เช้าวันนี้ คุณได้เข้าเฝ้าพระเจ้า ด้วยการ 1.อธิษฐาน 2.สรรเสริญ 3.ขอบพระคุณ และ 4.ทูลขอสิ่งดีๆ จากพระเจ้า …แล้วหรือยัง?? ถ้ายัง …ลองทำดูสิครับ ลองใช้คำอธิษฐานในข้างต้นเป็นตัวอย่างก็ได้ และถ้าหากต้องการให้เกิดผลดีอย่างยั่งยืน ก็ให้ทำเช่นนั้นทุกวัน แล้วสิ่งอัศจรรย์จะเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณ! …เชื่อไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 30มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน ความมั่นใจที่มาจากพระเจ้า Ep.1179 ในเวลาที่เราไม่มั่นใจ หรือไม่แน่ใจในการทำอะไรสักอย่าง แล้วอยากได้ความมั่นใจที่จะยืนยันในสิ่งที่ไม่มั่นใจนั้น เราอาจจะเลือกขอความเห็นหรือขอให้บางคนช่วยสร้างความมั่นใจให้ เราต้องระมัดระวังให้ให้ดีในจุดนี้ เรื่องราวในวันนี้เป็นตัวอย่างหรือเป็นบทเรียนให้เราได้ไม่มากก็น้อย เมื่อคนเผ่าดานไม่สามารถจะยึดครองดินแดนที่พระเจ้าประทานให้ พวกเขาจึงส่งชาย 5 คนที่เชี่ยวชาญทางการทหารออกไปสอดแนมหาพื้นที่ดู จากเมืองโศราห์และเอชทาโอล จากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อมาถึงแดนเทือกเขาแห่งเอฟราอิมใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2-3 วัน เขาก็พักที่บ้านของมีคาห์ผู้ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของพระเจ้าทำตามใจตัวเอง เขาได้พบกับคนเลวี เมื่อได้ยินเสียงพูดก็รู้ทันทีว่าคนเลวีหนุ่มนี้ไปได้เป็นคนแถวนั้น จึงเข้าไปสอบถามว่ามาทำอะไร ชายหนุ่มผู้รับใช้ของพระเจ้าที่เลือกไม่ทำตามกฎข้อบังคับของพระเจ้า ทำงานรับใช้พระเจ้าให้มีคาห์เพื่อจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ชายหนุ่มเลวีนั้นจึงตอบว่า ตัวเขาเป็นปุโรหิตที่ถูกจ้างโดยมีคาห์ 'คนเหล่านั้นจึงพูดกับเขาว่า “ถ้าอย่างนั้นช่วยทูลถามพระเจ้าให้ด้วยว่าการเดินทางของเราครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่” ปุโรหิตตอบว่า “จงไปดีมีสุขเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเห็นชอบกับการเดินทางของท่าน” ' ผู้วินิจฉัย 18:5-6 ในความเห็นของผม ผมมองว่าชายทั้ง 5 คนนี้ไม่มั่นใจที่จะไปจึงต้องหาที่พึ่ง เมื่อพบว่าเจอคนของพระเจ้าจึงขอคำปรึกษา นี่คือสิ่งที่น่ากลัวและต้องระวังให้มากในเวลาที่เราไม่มั่นใจและต้องการความมั่นใจ คือคนของพระเจ้าบางคนที่ภายนอกดูดี ดูน่าเชื่อถือ อาจจะใช้ทักษะในการเอาใจผู้คนมาให้คำแนะนำที่ไม่ได้มาจากพระเจ้าก็ได้ สิ่งนี้ได้จากการสังเกตว่า ปุโรหิตไม่ได้เข้าไปทูลถามพระเจ้าเลย เขาตอบทันที เขาอวยพรคนเหล่านั้นเลย นี่เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงข้อความที่บันทึกไว้ในช่วงท้ายๆของพระธรรมเล่มนี้ว่า ผู้คนก็ทำตามใจชอบ คือพวกเขาไม่เชื่อฟังทำตามพระเจ้า 'พระเยซูตรัสตอบว่า “จงระวัง อย่าให้ใครมาล่อลวงท่าน ‘… 'และจะมีผู้เผยพระวจนะเท็จมากมายมาหลอกลวงประชาชนเป็นอันมาก ' มัทธิว 24:4 / 11 TNCV ในยุคสุดท้ายไม่เพียงแต่มีคนที่คนตั้งใจที่จะมาล่อลวงพวกเรา แต่พวกเราเองอาจจะอยู่ในจุดที่ตรงกับช่วงท้ายพระธรรมผู้วินิจฉัยคือทำอะไรตามใจตัวเอง 'เพราะจะถึงเวลาที่คนจะทนต่อคำสอนที่ถูกต้องไม่ได้ แต่พวกเขาจะรวบรวมบรรดาอาจารย์ไว้สำหรับตน ตามความอยากของตัวเองเพื่อสนองหูที่คัน พวกเขาจะเลิกฟังความจริงและหันไปฟังนิยายต่างๆ ' 2 ทิโมธี 4:3-4 ในยุคสุดท้ายนี้จะมีผู้เชื่อเลือกที่จะฟังเฉพาะสิ่งที่เขาอยากฟังเท่านั้น ซึ่งบางคนก็รู้ว่าเขาควรพูดอะไรในเวลาไหน เมื่อทั้งสองคนมาเจอกันก็ดูเหมือนพระพรแห่งความสุขจะมีกับพวกเขาในเวลานั้น ในเรื่องนี้เราต้องติดตามกันต่อ หากเราต้องการความมั่นใจ ขอให้เรามองหาความมั่นใจจากพระเจ้าด้วยการอธิษฐานต่อพระเจ้า ร้องขอกำลังและความมั่นใจเพื่อเราจะวางใจในพระเจ้าได้จากพระวิญญาณบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ และขอโดยพระนามของพระเยซู ผมเชื่อว่าเราจะพบคำตอบ หากวันนี้เราไม่มั่นใจกับทางที่เรากำลังเดินไปอยู่ ขอให้กำลังใจทุกคนว่า การอธิษฐานต่อพระเจ้าคือคำตอบเดียว ไม่ต้องกลัวพระเจ้าจะนำเราไป พระเจ้าสั่งไว้ว่า จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด พระเจ้าสถิตอยู่และจะนำคนของพระองค์แน่นอน วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน คุณเลือกอะไร? Ep.1178 กาลเวลาทำให้ความรู้สึกที่เรามีต่อเรื่องต่างๆในชีวิตเป็นยังไงบ้าง? ยิ่งเรื่องขอพระเจ้า เวลาทำให้เราอยากจะรัก รู้จักพระเจ้าและเชื่อฟังพระองค์มากขึ้นหรือน้อยลง 'ในสมัยนั้นไม่มีกษัตริย์ในอิสราเอล และในสมัยนั้นคนเผ่าดานยังแสวงหาที่ดินอันจะเป็นมรดกของตนเพื่อจะได้พักอาศัย เพราะจนบัดนั้นแล้วมรดกในเผ่าอิสราเอลยังไม่ตกแก่เขา ' ผู้วินิจฉัย 18:1 เรื่องราวของวันนี้ทำให้ต้องใช้เวลาค้นคว้าหลายเรื่องเพื่อจะคลายความสงสัย และสร้างความกระจ่างให้ตัวเอง เผ่าดานยังแสวงหาที่ดินที่จะเป็นมรดกที่จะอาศัยอยู่ นี่คือสิ่งที่ผมสงสัยประการแรก คือนานแค่ไหนที่เขายังไม่ได้รับแผ่นดินที่พระเจ้าสัญญาว่าจะประทานให้ ถ้าเราย้อนกลับไปดูพระธรรมโยชูวา 19 บอกว่าเผ่าดานได้รับแล้ว แต่ในพระธรรมผู้วินิจฉัย 1 ได้แสดงให้ถึงความล้มเหลวที่เผ่าดานไม่สามารถยึดครองได้ เผ่าดานจึงถูกคนอาโมไรดันขึ้นไปอยู่บนเขา สิ่งที่ค้นหาข้อมูลมาได้ ระยะเวลานั้นคือประมาณ 200 ปี ฟังถูกแล้วครับ 200 ปี คำถามที่เราต้องคิดต่อคือ พระเจ้าไม่รักษาสัญญาของพระองค์หรือเปล่า? ผมจะตอบว่าไม่ใช่ เป็นข้อสันนิฐานจากผมว่าที่เผ่าดานไม่ได้รับเพราะพวกเขาไม่กล้า พวกเขาอาจจะมีความกลัวคนเหล่านั้นอยู่ อยากให้กำลังใจพวกเราว่า อย่าให้ความกลัวมาทำให้เราขัดขืน ฝ่าฝืนพระทัยของพระเจ้า แต่พระเจ้าก็เป็นพระเจ้าที่ให้อิสระกับเราที่จะเราเลือก ทุกสิ่งที่เราเลือกจะมีผลตามมาเสมอ 'เพราะพระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่ และทรงสมควรรับการสรรเสริญอย่างยิ่ง พระองค์ทรงเป็นที่เกรงกลัวเหนือพระทั้งปวง ' สดุดี 96:4 'ความยำเกรง องค์พระผู้เป็นเจ้า นำไปสู่ชีวิต เขาจะอิ่มหนำและพักสงบปราศจากความทุกข์ร้อน ' สุภาษิต 19:23 ขอให้เราเลือกที่จะเกรงกลัวพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ ผู้ทรงซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อถ้อยคำหรือพระสัญญาของพระองค์เสมอ ขอให้เราเลือกให้ถูก หากเราเลือกที่จะอยู่ในพระสัญญาของพระเจ้า ทางของพระองค์นั้นจะนำไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้นและปราศจากความทุกข์ร้อน ฟังให้ดีๆนะครับ ปราศจากความทุกข์ ไม่ใช่ปราศจากปัญหานะครับ แต่ปัญหาที่มีนั้นจะไม่ทำให้เราเป็นทุกข์ แต่เราจะมีสันตืสุขและมั่นใจว่าพระเจ้าที่รักเราและเรารักพระองค์นั้นจะเป็นผู้นำและทำให้เราเห็นวิธีการแก้ปัญหาในแบบของพระองค์ และพระเจ้าจะเป็นผู้ประทานความสุขใจให้กับเราที่ยึดมั่นอยู่ในพระองค์ พระเจ้าของเรา วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (304) หมอฟันของพระเจ้า! “ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า ‘ตาแทนตา และฟันแทนฟัน’ ส่วนเราบอกพวกท่านว่า อย่าต่อสู้คน ชั่ว ถ้าใครตบแก้มขวาของท่าน ก็จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย” ~มัทธิว 5:38-39 THSV11 “ You have heard that it was said, ‘Eye for eye, and tooth for tooth.’ But I tell you, do not resist an evil person. If anyone slaps you on the right cheek, turn to them the other cheek also.” ~Matthew 5:38-39 NIV มาร์ติน ลูเธอร์ คิง กล่าวว่า “ ถ้าเราใช้ระบบตาแทนตาและฟันแทนฟัน เราจะกลายเป็นประเทศชาติของคนตาบอดและคนฟันหลอ” (If we do an eye for an eye and a tooth for a tooth, we will be a blind and toothless nation.) พระเยซูคริสต์ ทรงบัญชาไม่ให้เราทำชั่วตอบแทนคนชั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่า 1.ทำชั่วมากหรือ 2.เลวร้ายยิ่งกว่าที่คนอื่นกระทำต่อเรา แต่ขอให้เราทำในสิ่งที่จะช่วยให้การตอบโต้หรือต่อสู้เลาะฟันกันและกันนั้น ยุติลงโดยเร็ว (แม้ว่าเราอาจจะเสียเปรียบบ้างก็ตาม) ดังนั้น แทนที่เราจะทำร้ายหรือทำลายฟันของผู้ใด เราควรทำหน้าที่ 1.ซ่อมแซม และ 2.รักษาฟัน ซึ่งเปรียบเหมือนสัมพันธภาพที่มีต่อกัน จะดีกว่า! ขอให้เรามาเป็นทันตแพทย์ของพระเจ้า ที่ใช้ความรู้ความสามารถและทักษะของเรา ในการบรรเทา ช่วยเหลือและสร้างมิตรภาพกับคนทั้งหลายรวมทั้งคนไข้และศัตรูของเรา และ ถ้าเราเป็นทันตแพทย์มืออาชีพจริงๆ ก็ขอให้คำอธิษฐานต่อไปนี้ เป็นคำอธิษฐานจากความตั้งใจของเรา คำอธิษฐานของทันตแพทย์ ~Dentist’s Prayer~ (Ramona K.Cecil เขียน; ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ แปล) “ ข้าแต่พระเจ้า... ขอสถิต ชิดใกล้ ในทุกวัน ยามข้าฯนั้น ทำทันต์ บริการ เพื่อคนไข้ ผู้วางใจ ได้ชื่นบาน สุขสำราญ สมชื่อ มือนิ่มนวล (Lord, be with me daily as I practice dentistry. May I treat with gentle hands all who put their trust in me.) “ขอให้ข้า มั่นใจ ในอุ้งหัตถ์ ช่วยขจัด หวั่นใจ ในตัวเขา ให้กังวล ผู้ใหญ่ ได้แบ่งเบา ให้ผู้เยาว์ น้ำตา ลาหายไป (May my calm assurance help to ease their fears, To relax the tense adults and dry the children's tears.) “ขอให้ข้า เก่งกล้า น่าศรัทธา พร้อมรับหน้า บรรดา เคสยากยาก เพียงอดทน แก้ไข ไม่ลำบาก ปากต่อปาก พอใจ ในฝีมือ (May I treat each patient with competence and skill, whether a difficult procedure or a tooth that I must fill.) “ขอให้ข้า รักษา เยียวยาเลิศ ปัญญาเกิด วินิจฉัย ได้ถูกต้อง พระสถิต กิจชำนาญ งานแคล่วคล่อง ยิ้มสวยของ คนไข้ ใช่รางวัล! (As I diagnose and treat, Lord, be with me all the while, and reward me with my patient's lovely, healthy smile.) …เป็นอย่างนี้ จะอาเมนไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 29มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (303) ความรับผิดชอบ: ” Responsibility” & “Accountability” “ให้ทุกคนถือว่าเรา เป็นคนเช่นนี้คือเป็นเหมือนคนรับใช้ของพระคริสต์ และ เป็นผู้รับมอบฉันทะให้ดูแลสิ่งล้ำลึกของพระเจ้า ยิ่งกว่านั้น บรรดาผู้รับมอบฉันทะย่อมได้รับการคาดหวังว่าต้องเป็นคนที่ไว้วางใจได้” ~1 โครินธ์ 4:1-2 THSV11 “This, then, is how you ought to regard us: as servants of Christ and as those entrusted with the mysteries God has revealed. Now it is required that those who have been given a trust must prove faithful.” ~1 Corinthians 4:1-2 NIV เราต้องมีความรับผิดชอบในฐานะผู้รับมอบฉันทะ ทั้ง 1).ต่อพระเจ้า 2).ต่อตัวผู้อื่น และ 3).ต่อตัวเราเอง คำว่า “ความรับผิดชอบ”ที่โดดเด่นมี2คำคือ 1.ความรับผิดชอบ 1).ในการลงมือทำตามหน้าที่ หรือ 2).ในการตอบสนอง ที่เรียกว่า” Responsibility 2.ความรับผิดชอบ 1).ต่อผลที่เกิดขึ้นจากการทำตามหน้าที่ หรือ การตอบสนองของเรา 2).ต่อการในการให้เหตุผลที่น่าพึงพอใจได้ สำหรับ ก.สิ่งที่ได้ทำลงไป และ ข.ระดับ(ผลกระทบ)ของสิ่งที่เกิดขึ้น เรียกว่า “Accountability” นั่นคือนอกจาก 1.เราต้องรับผิดชอบใน ”การกระทำ” หรือ “การไม่กระทำ”ของเรา 2.เรายังต้องรับผิดชอบใน “ผลของการกระทำ”หรือ“ผลกระทบจากการไม่กระทำ“ของเรา คือเราต้องสามารถรายงานผลที่เกิดขึ้นตามมาได้อย่าง ชัดเจน ถูกต้อง เป็นจริง และ โปร่งใส แบบเป็นที่น่าพึงพอใจของผู้รับรายงาน วันนี้ คุณคิดว่า คุณเป็น คนรับใช้ หรือ ผู้รับมอบฉันทะในการดูแลภารกิจ ที่ซื่อสัตย์และไว้ใจได้หรือไม่? ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง บทบาทหน้าที่ 1).ภายในบ้าน หรือครอบครัว 2).ภายในคริสตจักร 3).ภายในวงการคริสเตียน 4).ภายในที่ทำงาน หน่วยงาน หรือองค์กร 5).ภายในชุมชนสังคม ประเทศชาติ หรือโลกนี้ ในพระธรรมตอนนี้กล่าวถึงความรับผิดชอบ ในการ 1.ดูแลรักษาสิ่งล้ำลึกของพระเจ้า นั่นก็คือ ประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์ที่ช่วยไถ่ มวลมนุษยชาติให้รอดจากบาปและความตาย 2.ประกาศข่าวประเสริฐนั้นอย่างซื่อสัตย์และเป็นชีวิตจิตใจ 3.ฝึกฝนผู้เชื่อคนอื่นๆให้กระทำอย่างเดียวกัน 4.แต่งตั้งหรือมอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบในการกระทำพันธกิจนี้ให้แก่คนที่ซื่อสัตย์ ที่จะทำต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ผิดเพี้ยนจากความจริงหรือจากที่ได้รับมอบหมาย พี่น้องที่รัก 1.ความรับผิดชอบในการกระทำ อย่าง Responsibility ~ที่เราต้องรับไปกระทำ และ 2.ความรับผิดชอบในผลจากการกระทำของเรา อย่าง Accountability ~ที่เราต้องรายงานอย่างโปร่งใส ทั้ง2 นี้ล้วนเป็นคุณลักษณะสำคัญของความเป็นผู้นำ เหมือน ดังที่ John Miller กล่าวว่า “ ความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เรากระทำ เป็นรูปแบบสูงสุดของความเป็นผู้นำ!“ "Accountability is the highest form of leadership." วันนี้ คุณมี คุณลักษณะที่มีคุณธรรม ของผู้นำ ที่รับผิดชอบและไว้วางใจได้ 100% เหมือนดังที่กล่าวมาแล้ว …หรือยังครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 28มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (302) ความสุขสงบ? “เรามอบสันติสุขไว้กับพวกท่าน สันติสุขของเราที่ให้กับท่านนั้น เราไม่ได้ให้อย่างที่โลกให้ อย่าให้ใจของท่านเป็นทุกข์ อย่ากลัวเลย” ~ยอห์น 14:27 THSV11 “Peace I leave with you; my peace I give you. I do not give to you as the world gives. Do not let your hearts be troubled and do not be afraid.” ~John 14:27 NIV พระเยซูคริสต์ทรงสัญญาที่จะมอบ สันติสุข ให้แก่เรา ซึ่งเป็น ความสุขสงบ ที่ไม่ใช่ความสุขสันติอย่างที่โลกนี้รู้จัก หรือสามารถให้ได้ Karl Paul Reinhold Niebuhr (1892-1971) หรือเรียกสั้นๆว่า“ไรน์โฮลด์ นีบัวร์“( Reinhold Niebuhr) เป็นนักศาสนศาสตร์ อาจารย์โรงเรียนพระคริสตธรรม นักจริยธรรม นักอรรถาธิบายการเมือง ชาวอเมริกัน ท่านมีผลงานชิ้นเยี่ยมเป็นที่รู้จักกันทั่วหลายเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นเกี่ยวกับคำอธิษฐาน ขอความสุขสงบ ที่มีชื่อว่า Serenity Prayer (คำอธิษฐานขอความสุขสงบ) “God grant me the serenity to accept the things I cannot change; courage to change the things I can; and wisdom to know the difference.” (ขอพระเจ้า ทรงประทานใจสงบให้แก่ฉัน ที่จะยอมรับสิ่งที่ฉันไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ขอพระเจ้าทรงประทานความหาญกล้าให้แก่ฉัน ที่จะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ฉันอาจเปลี่ยนแปลงได้ และขอพระองค์ประทานสติปัญญา ที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างของทั้งสองสิ่งนั้นได้!) “Living one day at a time; enjoying one moment at a time; accepting hardships as the pathway to peace; taking, as He did, this sinful world as it is, not as I would have it;“ (ขอให้ฉันอยู่ได้วันต่อวัน ให้เพลิดเพลินได้ทีละช่วงเวลา ให้ยอมรับความยากลำบากว่าเป็นหนทางสู่สันติสุข ให้ยอมรับโลกที่เปี่ยมด้วยบาปนี้อย่างที่มันเป็น ไม่ใช่อย่างที่ฉันอยากให้เป็น) “trusting that He will make all things right if I surrender to His Will; that I may be reasonably happy in this life and supremely happy with Him forever in the next.“ (ขอให้ฉันวางใจว่าพระองค์เจ้าจะทำให้สิ่งทั้งปวงล้วนถูกต้อง ถ้าฉันยอมจำนนต่อน้ำพระทัยของพระองค์ เพื่อฉันจะได้มีความสุขในชีวิตนี้ และ มีความสุขมากยิ่งขึ้นตลอดไปในโลกหน้า) Amen. (อาเมน) พี่น้องที่รัก วันนี้คุณมีสันติสุขหรือมีความสงบสุขในใจแล้วหรือยัง? คำอธิษฐาน ที่เรียกว่า “ Serenity Prayer”(คำอธิษฐานขอความสุขสงบ) ข้างต้นนั้น ช่วยอะไรคุณได้บ้างหรือไม่? ขอให้ นับจากนี้ไป คุณจะรับมือกับ “สิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง” หรือ “สิ่งที่ยากลำบาก” 1.ในชีวิตและ 2.ในการรับใช้ ของคุณ ได้ง่ายขึ้นนะครับ! ขอให้คุณมีความสงบสุขได้ในทุกที่ แม้แต่ในที่ที่มีเสบียงกรัง เพียงเล็กน้อย เหมือนดังที่พระธรรม สุภาษิตกล่าวว่า “เสบียงกรังหน่อยหนึ่งพร้อมกับความสงบสุข ดีกว่าบ้านที่เต็มด้วยงานเลี้ยงพร้อมกับการวิวาท” ~สุภาษิต 17:1 THSV11 (A dry crust of bread eaten in peace and quiet is better than a feast eaten where everyone argues.) …อาเมนไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 27มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (300) ขอสอนให้นับวัน! “ขอทรงสอนข้าพระองค์ทั้งหลายให้นับวันของตน เพื่อพวกข้าพระองค์จะมีจิตใจที่มีปัญญา” ~สดุดี 90:12 THSV11 “Teach us to number each of our days so that we may grow in wisdom.” ~Psalms 90:12 GW ศ.ดร. นิพนธ์ คันธเสรี แปล/เรียบเรียงกลอนกวีบทหนึ่ง ที่ผมอ่านแล้วชอบมานานแล้ว จึงขอนำมาแบ่งปันแก่พี่น้องทุกท่าน ในชื่อเรื่องว่า "นับพระพรแห่งชีวิต" ”@ จงนับสวนด้วยจำนวนดอกไม้ ใช่ด้วยใบที่ร่วงหล่น @ จงนับวันด้วยชั่วโมงแห่งความสุข ใช่ด้วยทุกข์ที่ขมขื่น @ จงนับคืนด้วยดวงดาว ใช่ด้วยเงามืดที่ลางเลือน @ จงนับเดือนปีที่รอยยิ้ม ใช่ด้วยรอยพิมพ์คราบน้ำตา @ จงนับพระพรแห่งความชื่นชม ใช่ความขื่นขมระทบใจ @ จงนับอายุขัยด้วยจำนวนมิตร ใช่ด้วยคิดเป็นเดือนปี!“ พี่น้องที่รัก ชีวิตเราในโลกนี้ แสนสั้นยิ่งนัก เมื่อเปรียบกับนิรันดรกาล และช่วงชีวิตนั้นก็กำลังหมดไปอย่างรวดเร็ว! เหมือนดังที่กล่าวไว้ในพระธรรมสดุดี ที่ว่า “วันเวลาทั้งสิ้นของข้าพระองค์ทั้งหลายหมดไปใต้ความเกรี้ยวกราดของพระองค์ ปีของพวกข้าพระองค์สิ้นสุดลงอย่างเสียงถอนหายใจ อายุขัยของข้าพระองค์ทั้งหลายคือเจ็ดสิบ หรือหากแข็งแรงก็ถึงแปดสิบ แต่ช่วงชีวิตนั้นมีแต่ความลำบากและความเศร้าโศก ไม่ช้าก็สูญไปและพวกข้าพระองค์ก็จากไป” ~สดุดี 90:9-10 THSV11 ขอให้คุณรู้จักนับวันคืน ที่เหลืออยู่ในชีวิตของคุณ และใช้ประโยชน์ในแต่ละวันอย่างสูงส่งและสูงค่า ด้วยความฉลาดอย่างมีสติปัญญา เหมือนดังที่ผู้เขียนพระธรรมสดุดี ทูลขอจากพระเจ้าว่า “ขอทรงสอนข้าพระองค์ทั้งหลายให้นับวันคืนของตน เพื่อจะได้มีจิตใจที่กอปรด้วยสติปัญญา” ~สดุดี 90:12 TNCV และสิ่งที่ควรหนุนใจพวกเราเป็นอย่างมาก ก็คือ พระเจ้าทรงนับเส้นผมของเราไว้แล้วทุกเส้น หากว่าผมของเราแต่ละเส้นยังมีค่าและความสำคัญอย่างมากในพระทัยของพระเจ้า แล้วชีวิตของเราจะไม่ล้ำค่าในสายพระเนตรของพระองค์ได้อย่างไร? ขอบคุณพระเจ้าสำหรับคำหนุนใจจากพระวจนะของพระคริสต์ที่ว่า “ถึงผมของพวกท่านก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น อย่ากลัวเลย ท่านก็มีค่ามากกว่านกกระจาบหลายตัว” ~ลูกา 12:7 THSV11 “Even every hair on your head has been counted. Don’t be afraid! You are worth more than many sparrows.” Luke 12:7 GW ดังนั้น เราจึงไม่เหลืออะไรให้ต้อง 1.วิตกกังวล หรือ 2.กลัวอีกต่อไปเลย จริงไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 25มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน อย่าทึกทักเอาเอง Ep.1177 บทที่ 17 ของพระธรรมผู้วินิจฉัยได้ทำให้เราเห็นถึงความเสื่อมถอยของศีลธรรมอย่างมากในช่วงเวลานั้น ไม่รู้ว่าผมจะมองแบบติดลบมากเกินไปหรือเปล่า ว่าในยุคนี่ก็มีความเสื่อมเกิดมากขึ้นในหมู่ผู้เชื่อ ผู้เชื่อในเวลานี้จำนวนไม่น้อยที่ไม่ค่อยสนใจต่อถ้อยคำของพระเจ้า จะรับเอาหรือเชื่อเพียงส่วนที่ตัวเขาอยากจะรับหรืออยากจะเชื่อฟัง หรือคิดว่าทำแล้วจะได้รับพระพร และพวกเขาเชื่อว่าการได้มาซึ่งอำนาจ วัตถุสิ่งของ ก็ทึกทักเอาเองว่า สิ่งนั้นเป็นการอวยพระพรของพระเจ้า 'ในสมัยนั้นไม่มีกษัตริย์ในอิสราเอล ทุกคนก็ทำตามที่ตนเองเห็นชอบ ' ผู้วินิจฉัย 17:6 คนก็เสื่อมถอยทางศีลธรรมอย่างมากเพราะไม่มีผู้นำ มีคาห์ขโมยเงินแม่ตัวเอง เมื่อแม่สาปแช่งก็เอาเงินไปคืน เมื่อได้คืนแม่ก็เอาเงินส่วนหนึ่งไปถวายพระเจ้าเพื่อทำรูปเคารพ โดยไม่สนใจว่านี่คือคำสั่งห้ามของพระเจ้า แล้วมีคาห์ก็นำรูปเคารพนั้นไปที่บ้าน ทำเป็นเหมือนห้องพระเพื่อนมัสการพระเจ้าที่บ้านตัวเอง ทั้งๆที่พระเจ้าตั้งสถานที่สำหรับนมัสการพระเจ้าไว้แล้ว และพระเจ้าแต่งตั้งคนตระกูลเลวีเพื่อทำหน้าที่ในการปรนนิบัติพระเจ้า แต่มีคาห์กลับตั้งลูกชายเป็นปุโรหิตโดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งที่พระเจ้ากำหนดไว้เลย และต่อมามีคนเลวีจริงๆเดินทางมา 'มีคาห์จึงกล่าวกับเขาว่า “จงอยู่กับข้าพเจ้าเถิด และจงเป็นบิดาและปุโรหิตของข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าเองจะให้เงินท่านปีละ 10 แผ่น ให้เสื้อผ้าสำรับหนึ่ง และอาหารด้วย” คนเลวีนั้นจึงเข้าไป คนเลวีนั้นก็พอใจที่จะอยู่กับมีคาห์ และคนเลวีก็เป็นเหมือนลูกคนหนึ่งของเขา ' ผู้วินิจฉัย 17:10-11 มีคาห์ก็ออกปากจ้างปุโรหิต โดยสัญญาจะให้สิ่งจำเป็นกับเขา เป็นเรื่องที่น่าเศร้าและเสื่อมอย่างมากที่คนเลวีเองก็รับที่จะอยู่กับมีคาห์ คนของพระเจ้ายังไม่สนใจถ้อยคำของพระเจ้าว่า เขาเองจะต้องทำหน้าที่ในพลับพลาของพระเจ้า ในเรื่องนี้ดูเหมือนว่ามีคาห์ทึกทักเอาเองว่า การมาอยู่ด้วยของคนเลวีคือการได้รับพรจากพระเจ้า 'มีคาห์กล่าวว่า “บัดนี้ข้าพเจ้าทราบแล้วว่าพระยาห์เวห์จะทรงดีต่อข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้ามีเลวีคนหนึ่งเป็นปุโรหิต”' ผู้วินิจฉัย 17:13 ไม่ว่าเราจะอยู่ในบริบทของผู้ตามหรือผู้นำก็ขอให้เราเองจะยึดมั่นเชื้อฟังพระเจ้า ผู้นำเองก็อาจจะอยากได้ความมั่นคงในชีวิตจึงยอมทำตามความต้องการของผู้ตามเพื่อจะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ขอให้เราระลึกไว้เสมอว่า การยึดมั่นเชื่อฟังทำตามถ้อยคำของพระเจ้าคือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ไปกว่าการถวายหรือพิธีกรรมที่หรูหราสง่างาม ดูศักดิ์สิทธิ์ การอวยพระพรที่แท้จริงนั้นมาจากการเชื่อฟังทำตามพระทัยของพระเจ้า อย่าทึกเอาเองว่าการขัดต่อถ้อยคำของพระเจ้าจะยังนำพระพรมาให้ “แต่ซามูเอลโต้ตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยในเครื่องเผาบูชาและเครื่องสัตวบูชา ยิ่งกว่าการเชื่อฟังพระสุรเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าหรือ? การเชื่อฟังนั้นดียิ่งกว่าเครื่องบูชา การสดับฟังก็ดีกว่าการถวายไขมันของแกะผู้” 1ซามูเอล 15:22 TNCV สิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัยไม่ใช่เพียงสิ่งที่เราจะนำมาถวาย แต่เป็นหัวใจที่ยอมจำนนและเชื่อฟังพระองค์ทุกประการ ความมั่นคงในชีวิตเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ขอให้เรารู้ว่าความมั่นคงที่สุดในชีวิตของเรานั้น อยู่ในพระเจ้าผู้มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (301) ถ้าจน…ไม่ให้แต่ง! “คนที่รักความบันเทิงจะเป็นคนจน คนที่รักเหล้าองุ่นและน้ำมันจะไม่มั่งคั่ง” ~สุภาษิต 21:17 THSV11 “Those who love pleasure end up poor; lovers of wine and oil won’t get rich.” ~Proverbs 21:17 CEB มีคนส่งเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง มาให้ผม มีชื่อเรื่องว่า “ทำไมลูกสาวบิล เกตส์ ถึงแต่งกับคนจนไม่ได้?🩷😍🥰 เรื่องราวเป็นดังนี้ มีคนถามบิล เกตส์ ว่า “คุณซึ่งรวยที่สุดในโลก จะยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับผู้ชายจนๆ ไหม?” บิล เกตส์บอกว่า.. “ความมั่งคั่งไม่ใช่การมีเงินในบัญชีเยอะๆ แต่มันคือความสามารถในการสร้างความร่ำรวยต่างหาก” เขายกตัวอย่างว่า ”คนที่ถูกรางวัลลอตเตอรี่ ต่อให้ได้เงินเป็นร้อยล้าน แต่ส่วนใหญ่ 5 ปีต่อมา เขาจะก็กลับมาจนเหมือนเดิม เพราะพวกเขาไม่รู้วิธีจัดการเงิน (Money Management) ในทางกลับกัน คนที่ดูเหมือนจะไม่มีเงินเลย เช่น เจ้าของธุรกิจใหม่ๆ แต่เมื่อเขากำลังพัฒนาความรู้ทางการเงิน นั่นแหละคือ “รวย” ที่แท้จริง แล้วอะไรคือ ความต่างระหว่างคนรวยกับคนจน? …คนรวยคือคนที่พร้อมที่จะลุยเพื่อรวย แต่คนจนบางครั้งเลือกทางลัด เช่น ขโมยหรือทำร้ายคนอื่นเพื่อได้เงิน …คนรวยมองว่าตัวเองต้องเรียนรู้และหาข้อมูลเพื่อพัฒนาชีวิต แต่คนจนคิดว่าต้องรอให้คนอื่นมาช่วย!“ . บิล เกตส์เล่าเรื่องของยามคนหนึ่งที่เจอกระเป๋าเงินเต็มๆ แต่เลือกคืนให้ธนาคาร ตอนนั้นคนอื่นต่างด่าเขาว่าโง่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยามคนนั้นได้เลื่อนตำแหน่งจากพนักงานต้อนรับไปเป็นผู้บริหารระดับสูง ของธนาคาร!” . ใช่ครับ บิล เกตส์ ไม่ได้กล่าวว่า คนจนคือคนไม่มีเงิน แต่คนจนคือคนที่มีทัศนคติและความคิดที่ว่า ตัวของเขาไม่มีความสามารถ ในการสร้างความมั่งคั่งให้แก่ตัวเอง! และคนจนแบบนี้ล่ะ คือคนที่บิลเกตส์เขาไม่ยอมให้ลูกสาวของเขาไปแต่งงานด้วยเป็นแน่ ด้วยเหตุนี้ “ความรวย“ หรือ ”ความจน“ จึงไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับ ~จำนวนเงิน หรือ ~ทรัพย์สิน แต่เป็นเรื่องที่เริ่มต้น ออกมาจาก ~ใจ หรือ ~ความคิด หรือ ทัศนคติ ของเราตัวเรานั่นเอง ดังนั้น ขอให้เราอย่าสิ้นคิด หรือ คิดสั้น เอาแต่สนุกบันเทิง มึนเมา หรือ มัวเมากับสิ่งใด จนทำให้เรา ดักดาน อยู่กับที่ และ ยากจน อย่างน่าเสียดาย (ทั้งๆที่มีศักยภาพและโอกาส) แต่ขอให้เรา เป็นคน คิดเป็น ทำเป็น เพื่อที่เราจะกลายเป็นคนร่ำรวยมากยิ่งขึ้น ในวันหน้า เหมือนดัง คำกล่าวที่ว่า “ความร่ำรวยมั่งคั่ง คือ ผลผลิตของความสามารถที่จะคิดของมนุษย์!” “Wealth is the product of a man’s capacity to think.” — Ayn Rand วันนี้ ขอให้เรามาพัฒนาความคิดของเราให้ 1.คิดสิ่งดีๆ และ 2.สร้างสรรค์ ด้วยความกล้าหาญ เหมือนดังที่ อาจารย์ เปาโล แนะนำไว้ว่า “สุดท้ายนี้พี่น้องทั้งหลาย ขอจงใคร่ครวญดูสิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่เป็นจริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ รวมทั้งถ้ามีสิ่งใดที่ยอดเยี่ยม สิ่งใดที่น่ายกย่อง” ~ฟีลิปปี 4:8 THSV11 …จะดีไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 26มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน พระเะจ้าทรงฟังเสมอ Ep.1176 แซมสันได้อยู่ในบทบาทผู้วินิจฉัย 20 ปี แม้ว่าการเกิดมาของเขาจะอศัจรรย์ มีข้อบังคับสิ่งที่ต้องทำหลายอย่าง เมื่อทำตามสิ่งที่ได้รับมาคือพละกำลัง แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือเขาไม่รักษาชีวิตในข้อบังคับ หรือทำตามธรรมบัญัญติของพระเจ้าหลายครั้ง จนพระเจ้าจากเขาไป ทำให้พละกำลังที่มีก็หมดไปด้วย แซมสันถูกจับ ถูกทำให้ตาบอด ทำให้พระของคนฟิลิสเตียได้รับคำสรรเสริญ ในงานเลี้ยงฉลองนั้นทำให้พวกเขามีความสุข คนฟิลิสเตียจึงเรียกแซมสันมาเพื่อเล่นตลกให้ดู ไม่ได้พามาเล่นตลกจริงๆ แต่นำมาให้เห็นสภาพของแซมสัน ตาบอด หัวโล้น คือเอามาล้อเลียน หัวเราะเยาะทำให้อับอาย แซมสันเองได้บอกเด็กที่จูงมือพาเขามาว่า พาเขาไปที่เสาที่รับน้ำหนักของตึกเพื่อจะได้พิงเสานั้น ในงานเลี้ยงนั้นมีคนประมาณ 3,000 คน มาดู มาหัวเราะเยาะเขา 'แซมสันก็ร้องทูลพระยาห์เวห์ว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ ขอประทานกำลังแก่ข้าพระองค์ครั้งนี้อีกครั้งเดียว เพื่อข้าพระองค์จะได้แก้แค้นคนฟีลิสเตียเพื่อตาสองข้างของข้าพระองค์” ' ผู้วินิจฉัย 16:28 ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ใด เราสามารถจะร้องทูลกับพระเจ้าได้ พระเจ้ายังคงฟังคำอธิษฐานของเราเสมอ ขอเพียงเราต้องกลับใจและอธิษฐานกับพระเจ้าด้วยความจริงใจ 'ถ้าประชากรของเราผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยนามของเรานั้นจะถ่อมตัวลง อธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา ทั้งหันเสียจากทางชั่วของพวกเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขาและจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย ' 2 พงศาวดาร 7:14 สิ่งที่เราต้องรู้และย้ำเตือนในใจเสมอคือ เราเป็นลูกของพระเจ้า เป็นประชากรที่รักของพระองค์ หากความผิดพลาด การผิดจากพระประสงค์ของพระเจ้านำพาความเลวร้ายเข้ามาในชีวิตแบบแซมสัน สิ่งที่เราต้องทำคือถ่อมตัว ถ่อมใจของเราลง ยอมรับพระคุณความรักของพระเจ้า แล้วกลับใจจากบาป หันหน้ากลับมาหาพระเจ้า พระเจ้าสัญญาว่าพระองค์จะฟังคำร้องทูลและตอบคำอธิษฐานนั้น พระเจ้าก็ฟังเสียงของแซมสัน ประทานกำลังให้กับเขา แซมสันก็ใช้พละกำลังที่พระเจ้าประทานกลับมาให้นั้นดันเสากลางสองต้นล้ม เขาสามารถจัดการทุกคนที่นั้นได้ และเขาเองก็จบชีวิตที่นั่นด้วย ขอให้เรื่องราวนี้จะเป็นอุทาหรณ์สอนใจเรา ที่เราจะรักษาความสัมพันธ์กับพระเจ้าไว้ให้ได้ และให้ดีด้วยการเชื่อฟังทำตามถ้อยคำของพระเจ้าทุกประการ วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (299) จงรักงานของคุณ (Love Your Work) “สำหรับมนุษย์นั้นไม่มีอะไรดีไปกว่ากินและดื่ม กับ ชื่นชมผลจากการตรากตรำของเขา นี่แหละข้าพเจ้าเห็นด้วยว่าเป็นมาจากพระหัตถ์ของพระเจ้า” ~ปัญญาจารย์ 2:24 THSV11 “There is nothing better for people to do than to eat, drink, and find satisfaction in their work. I saw that even this comes from the hand of God.” ~Ecclesiastes 2:24 GW พี่น้องที่รัก 1. ถ้าคุณไม่มีงานทำ จงไปหางานดีมีคุณค่า ที่ทำแล้วมีความสุข และลงมือทำโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องค่าตอบแทนเป็นประเด็นหลัก 2.ถ้าคุณมีงานทำอยู่แล้ว จงขอบคุณ ซาบซึ้ง กับงานที่ได้ทำ จงอย่าบ่น อย่าเลี่ยง อย่าอู้ หรือ อย่าทำแบบซังกะตาย จงเรียนรู้ที่จะชอบงานของคุณ และทำงานนั้นให้สนุกและดีที่สุด แต่หากว่าทำอย่างไรก็ไม่สนุก คุณก็สามารถเลือกงานใหม่ที่มีคุณค่าและคุณพอใจหรือชอบมากกว่า และลงมือทำอย่างมีความสุข ใช่ครับ คุณต้องเรียนรู้ที่จะชอบงานของคุณ เพราะว่า… “ 1.ถ้าคุณไม่ชอบงานของคุณ คุณต้องลงทุนพลังงานเป็นสามเท่า หนึ่งเพื่อบังคับตัวคุณเองให้ทำงาน สองเพื่อต้านทานแรงบีบบังคับให้ทำงานนั้น และท้ายสุดก็เพื่อทำงานนั้น 2.ถ้าคุณรักงานของคุณ ความปรารถนาที่จะทำงานของคุณ จะเป็นดุจลมที่บันดาลนาวาของคุณให้แล่นไป โดยใช้เชื้อเพลิงน้อยลง 3.ถ้าคุณชอบงานของคุณ ก็เหมือนกับคุณไม่ได้ทำงาน เพราะเมื่อคุณชอบงานใด งานนั้นก็ไม่ใช่งานอีกต่อไป แต่เป็นความเพลิดเพลินบันเทิงใจ! 4.ถ้าคุณชอบงานของคุณ คุณก็จะทำงานและทำงาน โดยไม่มานั่งนับกาลเวลาที่ผ่านไป แล้วคุณจะได้เกี่ยวเก็บและสุขใจ กับรายได้ที่เพิ่มพูนเป็นทวีขึ้น!” พี่น้องที่รัก ขอให้เรา 1.กินดื่มอย่างมีความสุข 2.ให้สนุกและหาความอิ่มใจในงานที่ตัวเราทำ 3.ขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งดีที่มาจากพระหัตถ์ของพระองค์ (ผ่านงานที่เราทำ) 4.ให้คนรอบตัวและสังคมได้รับประโยขน์จากงานที่เราทำ (ปัญญาจารย์ 2:24 ) …จะดีไหมครับ? ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 23มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน เราจะจบอย่างไร? Ep.1175 แทบไม่น่าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อว่าชีวิตของคนที่พระเจ้าตั้งใจให้เขาเกิดมาเพื่อทำพระประสงค์ของพระองค์จะมีจุดจบที่น่าเศร้า เรื่องราวนี้ถูกบันทึกถึงไว้เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับเราทุกคนว่า ทุกความสามารถนั้นมาจากพระเจ้า แต่บางเรื่องที่เรามีนั้นอาจจะดูพิเศษกว่าคนอื่น แต่สิ่งนั้นไม่ได้บอกว่าเราจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ เรายังคงต้องทำทุกอย่างตามใจพระเจ้า ขอให้บทเรียนเรื่องจุดจบของแซมสันจะนำให้เราระมัดระวัง ใส่ใจที่จะรักษาชีวิตของเราให้เชื่อฟังถ้อยคำของพระเจ้าทุกประการ 'เจ้านายฟีลิสเตียประชุมกันเพื่อถวายเครื่องสัตวบูชายิ่งใหญ่แด่พระดาโกนพระเจ้าของเขาทั้งหลายและเพื่อชื่นชมยินดี เพราะพวกเขากล่าวว่า “พระเจ้าของเราได้มอบแซมสันศัตรูของเราไว้ในมือเราแล้ว” เมื่อประชาชนเห็นแซมสันก็สรรเสริญพระเจ้าของตนว่า “พระเจ้าของเราได้มอบศัตรูของเราไว้ในมือของเราแล้ว คือผู้ทำลายแผ่นดินของเราและสังหารพวกเราเป็นอันมาก” ' ผู้วินิจฉัย 16:23-24 เมื่อพระเจ้าละแซมสันไปแล้ว มือของมนุษย์ธรรมดาก็สามารถจับและควบคุมเขาได้ แซมสันเองเป็นเหตุให้พระอื่นได้รับการสรรเสริญ ขออย่าให้ชีวิตของเราเป็นเหตุให้พระเจ้าเสื่อมเสียพระเกียรติ หรือพระอื่นได้รับคำชื่นชม จะน่าเศร้าจริงๆ หากเราเองรับใช้อย่างดี ทำงานเกิดผล แต่จุดจบของเราทำให้พระอื่นได้รับคำชื่นชม ขอให้ชีวิตของเราจะมีอยู่เพื่อพระเจ้าจะได้รับคำสรรเสริญจากทุกสิ่งที่เราทำ มีตัวอย่างนึงที่ผมรักมากๆ จากเพื่อนๆของดาเนียล 'เนบูคัดเนสซาร์ตรัสว่า “สาธุการแด่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก พระองค์ผู้ทรงใช้ทูตสวรรค์มาช่วยกู้ผู้รับใช้ของพระองค์ ผู้ที่วางใจในพระองค์ ไม่ฟังคำบัญชาของกษัตริย์ และยอมพลีชีวิตของเขาเสียดีกว่าปรนนิบัติและนมัสการพระอื่น นอกจากพระเจ้าของพวกเขาเอง เพราะฉะนั้นเราจึงออกกฤษฎีกาว่า ชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษาคนใด ที่กล่าวลบหลู่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก จะถูกทึ้งแขนขาออกเสีย และบ้านเรือนของเขาจะถูกทำให้เป็นเศษเล็กเศษน้อย เพราะไม่มีพระอื่นใดที่สามารถช่วยกู้แบบนี้ได้” ' ดาเนียล 3:28-29 ขอให้ชีวิตของเราจะเหมือนชัครัค เมชาค และอาเบดเนโก ที่ยอมตายดีกว่าที่จะกราบพระอื่น การยืนยันในพระเจ้านั้นทำให้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์สรรเสริญพระเจ้าของเรา และยังออกกฎหมายห้ามกล่าวลบหลู่พระเจ้าของเราด้วย ขอพระเจ้าเมตตานำให้เราที่จะระมัดระวัง ใส่ใจที่จะรักษาชีวิตในการเชื่อฟัง ให้เราใช้ทุกอย่างที่พระเจ้าประทานให้เพื่อบรรลุพระประสงค์ของพระเจ้าในชีวิตของเรา ให้เราเริ่มต้นดี ระวังรักษาชีวิตให้ดีเพื่อที่เราจะจะจบสวย จบให้พระเจ้าได้รับเกียรติสมฐานะของพระองค์ พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่สูงสุด วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
คอลัมน์ “สดแต่เช้า”ปีที่4 (298) คุณมีอิทธิพลต่อใครบ้าง? “ทำนองเดียวกันพวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์” ~มัทธิว 5:16 THSV11 “Make your light shine, so others will see the good you do and will praise your Father in heaven.” ~Matthew 5:16 CEV “อิทธิพล”(influence) หมายความถึง “อำนาจที่สามารถบันดาลให้ผู้อื่นต้องคล้อยตามหรือทำตาม อำนาจที่สามารถบันดาลให้เป็นไปได้ต่างๆ“ คนบางคน กลายเป็นผู้อิทธิพลที่เรียกว่า” Influencers “โดยไม่รู้ตัว เพราะสิ่งที่เขาทำ ซึ่งอาจจะเป็น อิทธิพลใน 1).เชิงดีหรือ 2).เชิงไม่ดีก็ได้ ดังนั้นเราเองต้องระมัดระวังในสิ่งที่เราพูดหรือกระทำออกไป เพราะอาจจะมีคนทำตามสิ่งที่เราพูดหรือทำก็ได้! พระคัมภีร์มีตัวอย่างอะไรสอนบ้างในเรื่องเกี่ยวข้องกับการมีอิทธิพลเหนือคนอื่น? พระคัมภีร์สอนเราในเรื่องนี้ไว้หลายตอน อาทิ 1.เราทุกคนล้วนมีอิทธิพลต่อใครบางคนหรือต่อคนมากมาย ดุจ 1).เกลือ “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก”(มธ.5:13ก.) 2).แสงสว่าง “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก“(มธ.5:14ก.) 2.เราควรมีอิทธิพลในทางดี อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ~อย่าให้อิทธิพลดีๆของเราลดหายไป ”ท่านทั้งหลายเป็นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร ตั้งแต่นั้นไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร มีแต่จะถูกทิ้งเสียให้คนเหยียบย่ำ “ (มธ.5:13) 3.เราควรมีอิทธิพลในทางที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนอยู่เสมอ ~อย่าให้มีสิ่งใดไปปิดบัง หรือกั้นขวางพระพรนั้น “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะถูกปิดบังไว้ไม่ได้ เมื่อจุดตะเกียงแล้วไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้ ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนที่อยู่ในบ้านนั้น” (มธ.5:14-15) 4.เราควรมีชีวิตที่เป็นอิทธิพลที่ส่งผลกระทบในเชิงบวกจากความดีที่เราทำ ~อย่ามุ่งให้คนสรรเสริญเรา แต่ให้พวกเขาได้สรรเสริญพระเจ้าของเรา “ทำนองเดียวกันพวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์” (มัทธิว 5:16 ) พี่น้องที่รัก ขอให้เราเป็นทูต ตัวแทน หรือ ผู้ทรงอิทธิพลของพระเจ้าต่อสังคมและโลกนี้ ผ่านทางคำพูดและการกระทำของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอให้คำพูดของเรา 1.เปี่ยมด้วยความรักเมตตา ที่ให้ความหวังแก่ชีวิตของคนทั้งหลาย ~ดุจแสงสว่างที่ส่องเข้ามาในความมืดมิดของหัวใจ 2.เปี่ยมล้นด้วยรสชาติ ที่ให้ความพึงพอใจและถูกหูคนฟัง ~ดุจปรุงด้วยเกลือรสดี “จงให้ถ้อยคำของท่านทั้งหลายประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้ว่าควรจะตอบแต่ละคนอย่างไร” ~โคโลสี 4:6 THSV11 (Everything you say should be kind and well thought out so that you know how to answer everyone.) ~Colossians 4:6 GW วันนี้ คุณมีอิทธิพลในทางดี ต่อใครบ้าง ในเรื่องอะไร และอย่างไรบ้างครับ? …ช่วยบอกที! ~~~~~~~~~~~~~~~ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ 23มกราคม 2025 #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc#คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี #SoulFoodPodcastsSpotify…
 
พระธรรมนำชีวิต ตอน ผลของสิ่งที่ทำ Ep.1174 ทุกอย่างที่เราทำจะมีผลตามมาเสมอ เราต้องขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระเยซู พระองค์คือผู้ที่มารับผลของบาปกรรมที่เราทำและความบาปที่ถูกส่งต่อมาถึงเราโดยทางพันธุกรรม ไม่ว่าจะผลกรรมใด รวมทั้งทุกการถูกผูกมัดทางฝ่ายวิญญาณจากวิญญาณต่างๆ ทุกอย่างถูกยกเลิกด้วยการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูแล้ว ขอบคุณพระเจ้าที่เรื่องราวของแซมสันที่เป็นบทเรียนที่น่าสนใจมากๆ สำหรับเราในการที่เราจะรักษาความสัมพันธ์หรือความพิเศษที่พระเจ้าประทานให้กับเรา 'คนฟีลิสเตียก็มาจับท่านและควักลูกตาทั้งสองข้างของท่านเสีย แล้วนำท่านลงมายังเมืองกาซา เอาตรวนทองสัมฤทธิ์ล่ามไว้ และให้ท่านโม่แป้งอยู่ในเรือนจำ ' ผู้วินิจฉัย 16:21 เมื่อพระเจ้าจากแซมสันไป พละกำลังคือความพิเศษที่เขามีนั้นก็หายไป จากที่ไม่เคยมีอะไรจับเขาได้ วันนี้มนุษย์ธรรมดาก็สามารถจับเขามาลงโทษได้ ผมมองว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะแซมสันไม่สนใจในสิ่งที่พระเจ้าตรัสไว้ เรื่องราวที่บันทึกถึงเขา สิ่งที่บันทึกไว้ส่วนใหญ่จะบันทึกถึงการละเมิดและการฝ่าฝื่นสิ่งที่พระเจ้าต้องการ แต่เรื่องราวนี้ก็ยังทำให้เราเห็นถึงพระคุณของพระเจ้า พระองค์ทรงใช้คนที่อ่อนแอและดื้อด้านได้ พระเจ้าทรงควบคุมทุกอย่างได้แต่ทุกสิ่งนั้นจะมีผลตามมาเสมอ บางคนอาจจะคิดว่าผลนั้นมันเป็นเรื่องหลังความตาย มันไม่ได้เป๋นอย่างนั้นเสมอทุกอย่างอยู่ในเวลาของพระเจ้า 'ตั้งแต่โกนผมแล้ว ผมบนศีรษะของท่านก็ค่อยๆ งอกขึ้นมา ' ผู้วินิจฉัย 16:22 ในเรื่องเส้นผมที่ค่อยๆงอกขึ้นมานั้น ผมมองว่าสิ่งนี้ว่าเป็นพระคุณของพระเจ้าที่ไม่เคยหมดไป ความรักของพระเจ้านั้นยังมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง พระเมตตา พระคุณของพระเจ้ายังมีมาถึงเราทุกวัน เป็นของสดใหม่ ที่อบอุ่น หอมอบอวนเหมือนขนมปังอบใหม่ หากเราละเลย ละเมิด หรือกบฎต่อพระเจ้า สิ่งที่พระเยซูตรัสไว้คือ จงกลับใจเสียใหม่ รีบเลยนะครับ เดี๋ยวไม่ทันเวลา พระคุณของพระเจ้ามีพอเพียงกับเราทุกคน เพียงเราต้องเขื่อฟัง และวางใจในความรักของพระเจ้าที่มาถึงเราทางพระเยซูอย่างจริงจัง วุฒิ วงศ์สรรเสริญ…
 
Loading …

Добро пожаловать в Player FM!

Player FM сканирует Интернет в поисках высококачественных подкастов, чтобы вы могли наслаждаться ими прямо сейчас. Это лучшее приложение для подкастов, которое работает на Android, iPhone и веб-странице. Зарегистрируйтесь, чтобы синхронизировать подписки на разных устройствах.

 

Краткое руководство

Слушайте это шоу, пока исследуете
Прослушать